ระบบเกษตรชานเมือง | |||||
|
|||||||||
เกษตรชานเมืองได้พัฒนาในช่วงต้นปี 2533 เนื่องจากกระแสการต่อต้านการใช้สารเคมี และความต้องการ ลดการใช้สารเคมี (เกษตรอินทรีย และเกษตรธรรมชาติ) การลดปัจจัยการผลิตภายนอก กระแสดังกล่าว เกิดเนื่องจาก ผลกระทบจากการ ใช้ปัจจัยการผลิต ปุ๋ยเคมี และสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มากเกินไป และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลถึงสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ดังนั้นเกิด กระแส การสนใจด้านสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ สินค้าปลอดสารพิษ และผู้บริโภคสนใจดูแลสุขภาพ และกลุ่ม ผู้บริโภคสินค้าอินทรีย์ อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้นำเข้าเป็นนโยบายเศรษฐกิจ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้รับ การสนับสนุน การผลิตสินค้าพืชผักเกษตรปลอดภัยจากสารพิษมากขึ้น หน่วยงานหลักที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ ่กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนและกลุ่มเกษตรกรผลิตเกษตรอินทรีย์ โอกาสของเกษตรชานเมืองสำหรับพื้นที่นาชลประทาน ซึ่งมีขนาดพื้นที่ถือครองเล็กกว่าพื้นที่นาน้ำฝน เป็นแหล่งที่มี ีการดำเนินการเกษตรแบบประณีตแต่การขยายของเขตเมือง ได้มีส่วนทำให้พื้นที่เกษตร ในเขตชลประทานลดลง และพื้นที่ ถือครองเล็กลงกว่าเดิม การเกษตรในพื้นที่ขนาดเล็กบริเวณชานเมือง ได้กลายเป็นแหล่งผลิตพืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ และธุรกิจเพาะชำกล้าไม้ ซึ่งเป็นองค์ประกอบ ที่สำคัญของ การ พัฒนาเกษตรชานเมืองให้เป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์เมือง |
|||||||||
ศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตรได้พัฒนาระบบเกษตรชานในพื้นที่สถานีทดลองวิจัยเขตชลประทาน โดยเกษตรชานเมือง ได้ว่าเป็น รูปแบบการผลิตอีกรูปแบบหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ครัวเรือนขนาดเล็ก ที่แรงงานในครัวเรือนจำกัด ซึงมีรูปแบบ การผลิตีหลากหลาย เช่น การผลิตข้าวอินทรีย์ การปลูกผักสวนครัวเพื่อ บริโภคและจำหน่าย และการปลูกผักปลอดสารพิษ หรือผักอินทรีย์ในเขตชานเมือง และ สนับสนุนการใช้ปัจจัยการผลิตภายในชุมชน และลด ละ และเลิกการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยการใช้สารสกัดจากสมุนไพร สารสกัดชีวภาพ จุลินทรีย์ท้องถิ่น และการใช้ปุ๋ยพืชสด รูปแบบการผลิตดังกล่าวสอดคล้องกับระบบการเกษตรในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ ในเขตภาคเหนือตอนบน ซึ่งสามารถปรับใช้รูปแบบการผลิตได้ เช่น การผลิตผักในรูประบบ การปลูกผักหลังการปลูกข้าวนาปี หรือบางพื้นที่ๆ ผลิตผักตลอดปี |
|||||||||
การมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการผลิตผักปลอดสารพิษ | |||||||||
ระบบวนเกษตรสวนรอบบ้าน | |||||||||
ระบบเกษตรปลอดพิษ | |||||||||
ไม้ผลอายุสั้น | |||||||||
เกษตรปลอดพิษ
ชีวิตปลอดภัย |
การปลูกผักในช่องว่างระหว่างลำไยในเขตพื้นที่ชลประทาน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการปรับโครงสร้าง ของรัฐที่ต้องการลดพื้นที่ๆ ไม่เหมาสมต่อ การปลูกข้าวโดย การสนับสนุนระบบการปลูกพืชไม้ผล และผัก อย่างไรก็ตามจะพบว่าระบบเกษตรชานเมือง สอดคล้องและเหมาะสม ต่อที่นำมาสู่ความยั่งยืนของชุมชน ทั้งลดต้นทุนการผลิตจากการใช้สารเคมี อีกทั้งการลดการใช้แรงงานจากภายนอกศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตร ( ศวพก.) ได้ดำเนินการด้านเกษตรชานเมืองในระดับต่างๆ โดยมีเป้าหมาย 3 ประการได้แก่ ลดการพึ่งพิงปัจจัยภายนอก ลดต้นทุน และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวพิสูจน์แล้วว่าสามารถ เพิ่มมูลค่าและรายได้ให้แก่เกษตรกร ซึ่งอาศัยในเขตชานเมือง นำไปสู่ความมั่นคงทางอาหารและมั่นคงทางรายได้ การจัดการด้านตลาด มีความสำคัญและดำเนินการ ควบคู่ไปพร้อมกับการผลิต ตลาดผักปลอดสารพิษ ศวพก. ได้ดำเนินงานด้านรณรงค ์การปลูก และบริโภคปลอดสารพิษในระดับต่างๆ เช่น นักศึกษา บุคคลากรในหน่วยงานการศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจระบบดังกล่าว นอกจากการเรียนรู้อย่าง มีส่วนร่วมกับเกษตรกรผู้สนใจต้องการเปลี่ยน ระบบการผลิตจากการ ใช้สารเคมี ีสู่ระบบ ปลอดสารพิษ และเพิ่มรายได้ ้ให้แก่ครัวเรือนเกษตรกร |
||||||||
ความรู้เกษตรปลอดพิษ | |||||||||
สมาชิกผักปลอดสารพิษ | |||||||||
เครือข่ายผู้ผลิตผักปลอดสารพิษ | |||||||||
ตลาดจำหน่ายผักปลอดสารพิษ | |||||||||
ชมรมเกษตรปลอดพิษMCC | |||||||||
การบริหารศัตรูพืช | ระดับแปลง เริ่มทดลองในพื้นที่สถานีวิจัยเขตชลประทานตั้งแต่ปี 2535 โดยได้ดำเนินการทดลองผลิตผัก โดยไม่ใช้ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ใช้วิธีการกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานในพื้นที่ 1 ไร่ โดยการใช้ความหลากหลายของชนิดผัก และการจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน จนถึงปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ถึง 11 ไร่ และปี 2545 เริ่มพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบ การผลิตเป็นระบบอินทรีย์ อย่างไรก็ตามระดับแปลงทดลองซึ่งสนับสนุน และส่งเสริมการเรียนรู้ไม่เฉพาะแต่ ผู้ผลิต แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมการศึกษาใน ระดับนักเรียน นักศึกษา | ||||||||
เคล็ดไม่ลับกับมหัศจรรย์ผัก | |||||||||
แมลงศัตรูผัก | |||||||||
ตัวห้ำและตัวเบียน | |||||||||
คู่มือการผลิตผักปลอดสารพิษ | นอกจากนี้ยังมีงานศึกษาด้านวนเกษตรสวนรอบบ้านซึ่งสามารถใช้เป็นแปลงเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ และข้อมูลสนับสนุนด้านการอนุรักษ์พันธุ์ผักและสมุนไพรพื้นบ้านและเชือมโยงกับการอนุรักษ์ ท้องถิ่น และยังเป็นการผลิตที่ใช้ปัจจัยการผลิตต่ำ เกษตรกรสามารถผลิตเชิงการค้าโดย ไม่ใช้สารเคมี ีกำจัดศัตรูพืชและผลิตพันธุ์พืชเชิงการค้าได้ ซึ่งเกษตรกรสามารถผลิตได้โดยแรงงานในครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันพืชผักปลอดสารพิษได้รับการสนับสนุนในระดับต่างๆมากขึ้น แปลงวนเกษตรสวนรอบบ้าน ของศวพก ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ ทั้งระดับ นักเรียน นักศึกษา และเกษตรกร ผู้ที่สนใจเข้าชมและศึกษาได้ | ||||||||
โครงการวิจัยร่วม RURBIFARM | |||||||||
:::
แนะนำเวปไซต์ ::: |
|||||||||
ราคาผักและไม้ผลตลาดไท | |||||||||
ตลาดกลางค้าส่งสี่มุมเมือง | ระดับครัวเรือนเกษตรกร โดยการเข้าศึกษาทำงานร่วมกับเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ส่งเสริม โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ในระดับชุมชน ที่ต้องการปรับเปลี่ยนระบบการผลิต เช่น กลุ่มปิงน้อย หมู่ 8 ต. ปิงน้อย อ. สารภี จ. เชียงใหม่ จากเดิมมีการใช้สารเคมีอย่างเข้มข้นมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี สนใจปรับเปลี่ยน ระบบการผลิต นอกจากนี้ยังเน้นความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการผลิต ผักปลอดสารพิษที่ใช้หลักการทางนิเวศน์เกษตร การบริหารจัดการ และความยั่งยืนของกลุ่ม พร้อมทั้งบทบาทของปัจจัยภายนอกที่จะมีผลต่อการขยายตัวของกลุ่ม นอกจากนี้รวมถึงโอกาสใน การขยายระบบ การผลิตที่เน้นเกษตรกรวิทยากรในการเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนต่างๆ | ||||||||
สืบค้นข้อมูลผัก | |||||||||
ผักปลอดภัยจากสารพิษ | |||||||||
โรคและแมลงศัตรูพืชผัก | |||||||||
Agroecology Links | |||||||||
ระดับจังหวัด ศวพก. ศึกษาการตลาดผักปลอดสารพิษในโดยการจำหน่ายผักปลอดสารพิษรูปแบบต่างๆ ทั้งการจำหน่ายตรง จำหน่ายภายในเขต อ. เมือง จ. เชียงใหม่ กิจกรรมชมรมเกษตรปลอดพิษ MCC ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาการตลาด และสนับสนุนการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ์และสามารถพัฒนา ทักษะและมีโอกาสเป็นอาชีพได้ | |||||||||
การตลาดและองค์กรผู้บริโภค มีความสำคัญกับระบบการผลิตเนื่องจาก: | |||||||||
สร้างความเข้าใจแนวคิดและปฏิบัติด้านเกษตรยั่งยืนให้กับผู้บริโภค และสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา |
|||||||||
เป็นกระบวนการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ผลิต | |||||||||
ศวพก.ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆในการจัดการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ์และสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ศวพก. ได้เน้นการเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ การฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากร กับการผลิตทางเกษตร ที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรม กับผู้ผลิตและผู้บริโภค รวโภคมถึงการตระหนักถึงการบริโภคอาหารปลอดพิษ และอาหารเพื่อสุขภาพ และการสนับสนุน ให้เชียงใหม่เป็นจังหวัดต้นแบบของ เกษตรปลอดพิษ | |||||||||
กรอบงานวิจัยของระบบเกษตรชานเมืองมีดังนี้ | |||||||||
การเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกร และการร่วมมือระหว่างองค์กร |
|||||||||
ระบบอาหารท้องถิ่นกับเศรษฐกิจชุมชน |
|||||||||
หลักการเกษตรเชิงนิเวศน์และการลดปัจจัยการผลิตของเกษตรชานเมือง | |||||||||
เครือข่ายผู้ผลิต
ผู้บริโภคเพื่การพัฒนาเกษตรชุมชน |
|||||||||
โครงการวิจัยที่กำลังดำเนินการ | |||||||||
Sustainable Farming at the Rural An Integrated Knowledge Based Approach for Nutrient and Water Recycling in Small-Scale Farming Systems in Peri-Urban Areas of China and Vietnam RURBIFARM | |||||||||
|
|||||||||
งานวิจัยระบบเกษตรชานเมือง | |||||||||
|