1 วิทย์ อนุศาสนะนันทน์ รหัส 4428134 |
หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมามีการพัฒนาการเกษตรโดยเน้นการเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุด
มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เครื่องจักรกลและ สารเคมีต่างๆ แม้ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะให้ผลผลิตสูง ลดอัตราการเสี่ยงในหลายๆเรื่อง แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เช่นปัญหาการปนเปื้อนของสารเคมี ยากำจัดแมลงศัตรูพืชในแหล่งน้ำ ดิน อากาศ การพังทลายและการสูญเสียหน้าดิน ความอุดมสมบูรณ์ของดินรวมถึงจุลินทรีย์ในดิน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดปัญหาด้านแรงงาน เกิดการว่างงาน การลดลงของจำนวนครอบครัวที่ประกอบอาชีพการเกษตร โครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรมเปลี่ยนไป ตัวอย่างล่าสุดของการถางป่าทำไร่เลื่อนลอยจนมีผลต่อสภาพแวดล้อมคือรายงานทางวิทยาศาสตร์จากวิทยุ BBC ออกอากาศในวันนี้ (8พฤศจิกายน 2545)ว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการเก็บข้อมูลการเกิดไฟป่าครั้งใหญ่บนเกาะกะริมันตันของอินโดนิเซียเมื่อปี2540 กินเนื้อที่ประมาณหนึ่งในสิบของพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตร นอกจากนื้ความร้อนที่เกิดขึ้นยังทำให้ถ่านหินร่วน(เกิดจากการทับถมของซากไม้ในแหล่งน้ำเป็นเวลานานๆจนกลายเป็นถ่านหินร่วน) ติดไฟลึกลงไปถึง 2 ฟุตและไหม้ติดไฟกินเวลานานกว่า 1 เดือน ทำให้เกิดความร้อน และควันไฟ รวมถึงก๊าซคาร์บอน เป็นปริมาณถึง 40% ของปริมาณที่เกิดก๊าซคาร์บอนจากโรงงานอุตสาหกรรมทั้งหมดในโลก ก๊าซคาร์บอนที่เกิดขึ้นจะไปห่อหุ้มบรรยากาศโลก รังสีคลื่นสั้นจากดวงอาทิตย์ผ่านชั้นคาร์บอนเข้ามาได้แต่เมื่อตกกระทบพื้นผิวโลกจะสะท้อนกลับกลายเป็นเป็นรังสีคลื่นยาวไม่สามารถออกจากชั้นคาร์บอนได้ทำให้บรรยากาศโลกร้อนขึ้นเรียกสภาวการณ์นี้ว่าสภาวการณ์เรือนกระจกก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอย่างรุนแรง ในการลดปัญหาที่เกิดขึ้น แนวทางการเกษตรแบบยั่งยืนได้ถูกนำมาใช้โดยเฉพาะประเทศที่มีการเกษตรแบบอุตสาหกรรมที่เน้นการให้ผลผลิตสูงสุดจนเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง เป็นการยากที่จะให้คำจำกัดความของคำว่าการเกษตรแบบยั่งยืน(Sustainable Agriculture)แต่สามารถดูได้จากลักษณะการทำการเกษตรแบบยั่งยืนโดยมีลักษณะที่สำคัญคือ 1.เป็นการเกษตรที่มีการรบกวนต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์น้อยที่สุดเช่นไม่ทำให้เกิดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำจากสารเคมีทางการเกษตร 2.เป็นการเกษตรที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน ป้องกันการสูญเสียหน้าดินจากการพังทลายของดิน ป้องกันการเกิดสภาพดินเค็ม 3.มีการใช้การจัดการต่อแมลงศัตรูพืชอย่างระมัดระวังโดยนำการควบคุมโดยชีววิธี(Biological Control)ทดแทนการใช้สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืชตลอดจนปุ๋ยเคมี เช่นการใช้จุลินทรีย์พวก Mycorrhiza,Rhizobia และFree living Nitrogen fixing Bacteria 4.การใช้ระบบปลูกพืชหมุนเวียน ลดการไถพรวน ปลูกพืชให้เหมาะสมตามสภาพดินและภูมิอากาศ 5.การใช้วัสดุคลุมดินเช่นฟางข้าวเพื่อลดการสูญเสียความชื้นจากดิน การปลูกไม้ใหญ่เป็นการลดความเร็วของลมป้องกันการเกิดมลภาวะในอากาศ การเกษตรแบบยั่งยืนไม่ได้เน้นความต้องการของผู้ทำเป็นหลักแต่เน้นการรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมทั้งต่อชุมชน สุขภาพของผู้บริโภค ความปลอดภัยทั้งในปัจจุบันและอนาคตทั้งนี้ต้องทำให้ครอบครัวเกษตรกรสามารถดำรงชีพอยู่ได้ การทำการเกษตรแบบยั่งยืนมีหลายรูปแบบเช่นการทำการเกษตรผสมผสาน(Mixed Farming)โดยมีการปลูกพืชร่วมกับการเลี้ยงสัตว์ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพระราชดำริฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ มูลสัตว์เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และยังเป็นการเปลี่ยนวัตถุดิบราคาถูกคือพืชไปเป็นผลผลิตราคาแพงคือเนื้อสัตว์ Organic farmกับ Sustainable Agriculture การเกษตรอินทรีย์(Organic Farming) เป็นการเกษตรที่ไม่มีการใช้ปุ๋ยสังเคราะห์(Synthetic Fertilizer) ยาฆ่าแมลงและสารเคมีกำจัดวัชพืช การใช้ยารักษาสัตว์เฉพาะที่เป็นโรคที่เกิดขึ้นและจำเป็นเท่านั้น แต่จะเน้นด้านการรักษาสุขภาพสัตว์ อาหารสัตว์ การป้องกันโรคสัตว์เพื่อให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง ให้ผลผลิตสูง การเกษตรแบบยั่งยืน(Sustainable Agriculture) เป็นการเกษตรที่เน้นความรู้สึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ปกปักรักษาทรัพยากรเพื่อให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืนมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนั้นการเกษตรอินทรีย์ซึ่งหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทำให้ไม่มีผลต่อสภาพแวดล้อมและต่อผู้บริโภค จึงสามารถจัดอยู่ในการเกษตรแบบยั่งยืนได้ การเกษตรที่ใช้ทั้งแบบเกษตรอินทรีย์และเกษตรยั่งยืนจะระมัดระวังไม่ให้สูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยการใช้ระบบปลูกพืชหมุนเวียน มีการเลี้ยงสัตว์ร่วมกับพืชในสัดส่วนที่เหมาะสมไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ลดการใช้เครื่องจักรกล ลดการใช้น้ำมันซึ่งจัดเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้(Non Renewable Resource) นอกจากนี้มูลสัตว์ยังช่วยสร้างจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายดิน(Decayed Organic Material) หลีกเลี่ยงการไถพรวนที่ทำให้โครงสร้างของดินเสียจน เกิดการพังทลายของดิน ระบบการตลาดที่คนภายในชุมชนซื้อผลผลิตจากฟาร์มของชุมชนโดยระบบสหกรณ์ นอกจากจะได้ของสด ปลอดสารพิษแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือทำให้ฟาร์มขนาดเล็กสามารถเลี้ยงตัวเองอยู่ได้ การเกษตรอินทรีย์และ การเกษตรแบบยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการดำรงชีวิตของมนุษย์โดยไม่รบกวนต่อสิ่งแวดล้อม |
2 จักรกฤษณ์ ขันทอง |
เกษตรที่ยั่งยืนนั้น
มีความหมายว่า แนวทางการใช้วิชาการเกษตรเพื่อสามารถที่จะจัดการตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยาการธรรมชาติ
และการพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนการปรับปรุงนโยบายของรัฐหรือสถาบันในลักษณะที่จะให้เกิดการคงไว้
และสามารถนำไปใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ ตามความต้องการของมนุษย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
การทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เช่นการเกษตรยั่งยืน ป่าไม้ยั่งยืน หรือประมงยั่งยืนนั้นล้วนแต่จะต้องอาศัยการอนุรักษ์ดินและที่ดิน
ทรัพยากรด้านพันธุกรรมของพืชและสัตว์ เทคโนโลยีที่จะใช้ในการนี้ จะต้องเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสม
ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ก่อให้เกิดผลด้านเศรษฐกิจ และการยอมรับในสังคมนั้นๆ หากพิจารณาถึงความหมายของเกษตรยั่งยืนนั้น จะเห็นได้ว่ามีเงื่อนไขต่างๆ หลายต่อหลายประการ ประการแรกคือ การที่จะต้องใช้วิชาการเกษตรซึ่งพัฒนาขึ้นจากงานวิจัย ดังนั้นในการค้นคว้าหาแนวทางเพื่อให้ได้มาซึ่งเกษตรยั่งยืนจึงจำเป็นจะต้องทำงานวิจัย อีกประการหนึ่งก็คือ เกษตรยั่งยืนไม่ได้หมายความถึงการปฏิเสธเทคโนโลยีต่างๆไม่ได้ปฏิเสธสารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือพันธุ์ใหม่ๆ ก็หาได้ไม่ เพียงแต่การให้ได้มาซึ่งเกษตรยั่งยืนนั้น จะต้องใคร่ครวญว่าเทคโนโลยีเหล่านั้น หากนำมาใช้ในอัตราและปริมาณที่มากเกินไป หรือนำมาใช้ในสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่ๆ ไม่เหมาะสมแล้วจะนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมให้แก่ทรัพยากรหรือสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรหรือไม่ ประเด็นต่อมาที่จะต้องนำมาใคร่ครวญได้แก่ ความเหมาะสมของสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรว่า จะสามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้หรือไม่ และเมื่อใช้แล้วจะสามารถผลิตสินค้าเกษตรออกมาเพื่อเพิ่มรายได้ให้เขาเหล่านั้นได้หรือไม่ และในประเด็นสุดท้ายได้แก่การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร จะสามารถกระทำในลักษณะใดที่เกษตรกรจะสามารถเข้าใจถึงเทคโนโลยีการเกษตรว่ามีความเหมาะสมและจะเกิดประโยชน์แก่เกษตรกรในการที่จะนำไปปรับใช้ได้ต่อไป เกษตรอินทรีย์ (ORGANIC FARMING) ในความหมายของสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (IFOAM) คือ ระบบการเกษตรที่ผลิตอาหารและเส้นใย ด้วยความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ โดยเน้นหลักการปรับปรุงบำรุงดิน การเคารพต่อศักยภาพทางธรรมชาติของพืช สัตว์และนิเวศการเกษตร เกษตรอินทรีย์จึงลดการใช้ปัจจัยการผลิตจากภายนอก และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่นปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ในขณะเดียวกันก็ พยายามประยุกต์ใช้ธรรมชาติใน การเพิ่มผลผลิต และพัฒนาความต้านทางต่อโรคของพืชและสัตว์เลี้ยง หลักการเกษตรอินทรีย์นี้ เป็น หลักการสากล ที่สอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ สังคม ภูมิอากาศและ วัฒนธรรมของท้องถิ่นด้วย การที่เกษตรอินทรีย์นั้นจะเป็นเกษตรที่ยั่งยืนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างโดยเฉพาะปัจจัยของสภาพแวดล้อม และการจัดการของตัวเกษตรกรเองว่าจะสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเพียงไร การที่สภาพแวดล้อมมีความอุดมสมบูรณ์มากย่อมทำให้มีความได้เปรียบในด้านการจัดการ การดูแลรักษาพืช แต่หากตัวเกษตรกรนั้นจัดการได้ไม่ดีแล้วย่อมส่งผลถึงการเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้อย่างไม่เป็นประโยชน์ สภาพแวดล้อมเสียสมดุล ทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมาคือความไม่ยั่งยืนในการทำการเกษตรอินทรีย์ หากว่ามีการจัดการที่ ดีสภาพแวดล้อมมีความสมดุลเกษตรอินทรีย์นั้นย่อมมีความยั่งยืน |
3 ณัฐชยา ปิงอินถา |
การเกษตรแบบยั่งยืน
(sustainable agriculture) หมายถึง ระบบการบริหาร เพื่อทำการผลิตทางการเกษตรที่ตอบสนองต่อความจำเป็นและต้องการของมนุษย์
และในขณะเดียวกันก็ธำรงรักษาและฟื้นฟูคุณภาพของสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
หรือแนวทางการเกษตรใหม่ที่ใช้ความรู้ทางนิเวศวิทยาเพื่อการเกษตร โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และสามารถเป็นไปได้ในทางเศรษฐกิจ เกื้อหนุนให้เกิดความยุติธรรมทางสังคม รวมทั้งเพิ่มพูนคุณธรรมและคุณค่าของมนุษย์
การเกษตรแบบยั่งยืนนั้นได้แก่การสร้างความยั่งยืนในด้านต่างๆ ต่อไปนี้ " สร้างความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ การเกษตรยั่งยืนเป็นระบบที่ส่งเสริมให้ทำการผลิตส่วนหนึ่งเพื่อการยังชีพในครอบครัว เป็นการเพิ่มรายได้ด้วยการลดรายจ่ายในด้านค่าอาหาร และอื่นๆที่อาจได้จากการทำการเกษตรซึ่งเน้นระบบการทำเกษตรแบบผสมผสาน (Integrated Farming) อันจะช่วยลดความผันผวนของผลผลิตและรายได้ อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพของเกษตรกรในการพึ่งตนเอง " สร้างความยั่งยืนด้านสังคม " สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม รูปแบบต่างๆของเกษตรยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ (Organic
Agriculture) เป็นระบบผลิตทางการเกษตรที่ผลิตอาหารและเส้นใย ด้วยความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม
สังคม และเศรษฐกิจ โดยเน้นหลักการบำรุงดิน การเคารพต่อศักยภาพทางธรรมชาติของพืช
สัตว์ และนิเวศการเกษตร เกษตรอินทรีย์จึงลดการใช้ปัจจัยการผลิตภายนอก และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์
เช่น ปุ๋ย สารกำจัดศัตรูพืช เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ และฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์
แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามประยุกต์ใช้ธรรมชาติในการเพิ่มผลผลิต และพัฒนาความต้านทานต่อโรคของพืชและสัตว์เลี้ยง
เกษตรอินทรีย์อาศัยการปลูกพืชหมุนเวียนจากเศษพืช มูลสัตว์ พืชตระกูลถั่ว
ปุ๋ยพืชสด เศษซากพืชซากเหลือทิ้งต่างๆ การใช้ธาตุอาหารจากการผุพังของหินแร่
รวมไปถึงการใช้หลักการควบคุมศัตรูพืชโดยวิธีชีวภาพ เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน
สำหรับเป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช รวมทั้งการควบคุมศัตรูพืชต่างๆเช่น แมลง
โรคพืช และวัชพืช หลักการเกษตรอินทรีย์นี้เป็นหลักสากลที่สอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ
สังคม ภูมิอากาศและวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย |
4 ชุติมา สุรีพิทักษ์ |
Sustainable Agriculture Sustainable Agriculture หรือ เกษตรยั่งยืน (วัฒนเกษตร หรือ เกษตรทางรอด) เป็นหลักชี้นำการผลิตทางเกษตรในอนาคต โดยเน้นที่การจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิตทางเกษตรอันประสบความสำเร็จ เพื่อสนองตอบความต้องการของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลง (ไม่คงที่) โดยขณะเดียวกันสามารถดำรงหรือบำรุงสภาพแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไว้ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านเทคนิคของกลุ่ม CGIAR (Consultative Group on International Agricul-tural Research) ได้ให้ความหมายว่า เกษตรยั่งยืน คือระบบการบริหารทรัพยากร เพื่อทำการผลิตทางการเกษตรที่ตอบสนองต่อความจำเป็นและต้องการของมนุษย์ และในขณะเดียวกันก็ธำรงรักษาและฟื้นฟูคุณภาพของสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การเกษตรยั่งยืน จึงเกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบการผลิต ความสามารถของผู้ผลิตในการผลิตสินค้าเกษตร ภายใต้การจัดการทรัพยากรอย่างเหมาะสม ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อการกินดี อยู่ดี มีเสถียรภาพและสามารถพึ่งตนเองได้ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงประเพณี วัฒนธรรม และคุณธรรมของสมาชิกในชุมชน อภิพรรณ (2542) กล่าวว่า การเกษตรยั่งยืนไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ได้ปฏิเสธสารเคมี ปุ๋ยเคมี หรือพันธุ์ใหม่ๆ ก็หาได้ไม่ เพียงแต่การให้ได้มาซึ่งเกษตรยั่งยืนนั้น นักวิชาการจะต้องใคร่ครวญว่าเทคโนโลยีเหล่านั้น หากนำมาใช้ในอัตราและปริมาณที่มากเกินไป หรือนำมาใช้ในสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่ๆ ไม่เหมาะสมแล้วจะนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมให้แก่ทรัพยากรหรือสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรหรือไม่ ประเด็นต่อมาที่จะต้องนำมาใคร่ครวญได้แก่ ความเหมาะสมของสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรว่า จะสามารถใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้หรือไม่ และเมื่อใช้แล้วจะสามารถผลิตสินค้าเกษตรออกมาเพื่อเพิ่มรายได้ให้เขาเหล่านั้นได้หรือไม่ และในประเด็นสุดท้ายได้แก่การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร จะสามารถกระทำในลักษณะใดที่เกษตรกรจะสามารถเข้าใจถึงเทคโนโลยีการเกษตรว่ามีความเหมาะสมและจะเกิดประโยชน์แก่เกษตรกรในการที่จะนำไปปรับใช้ได้ต่อไป ตามหลักของเกษตรยั่งยืนนี้
การผลิตทางเกษตรจะต้องคำนึงถึงปัจจัยประกอบต่างๆ อาทิ ระบบนิเวศเกษตร ภาวะเศรษฐกิจ
ปัจจัยทางสังคมของเกษตรกรวิทยาการและเทคโนโลยี Organic Agriculture หลักการสำคัญของเกษตรอินทรีย์
คือ เกษตรยั่งยืนและเกษตรอินทรีย์ |
5 จิราวัฒน์ ปัญญาเทียม |
การเกษตรแบบยั่งยืน
( sustainable ) หมายถึง ความสามารถของระบบที่จะรักษาอัตราของการผลิตให้อยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในระยะยาวติดต่อกันภายใต้
สภาพแวดล้อมที่เลว หรือไม่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำจนเป็นลักษณะประจำของท้องถิ่น
เช่นดินเป็นกรด หรือ ดินเค็ม พื้นที่ที่มีสภาพน้ำท่วมทุกปี หรือเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวไม่สม่ำเสมอ
เช่น ฝนแล้ง หรือเกิดศัตรูพืชระบาด ในความหมายตรงกันข้ามคือ สภาพไร้ความยั่งยืนนั้นคือการที่ระบบมีความอ่อนแอต่อความเสียหายในระบบได้ง่าย เช่น ข้าวพันธุ์ลูกผสมต่างประเทศให้ผลผลิตสูง แต่อ่อนแอต่อโรคและแมลงศัตรูพืชย่อมมีความยั่งยืนน้อยกว่าข้าวพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งถึงแม้จะให้ผลผลิตต่ำกว่าแต่มีความทนทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ในปัจจุบันได้มีการพูดถึงการพัฒนาแบบยั่งยืน กันอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศไทยและนานาชาติ คงจะต้องยอมรับกันว่าสาเหตุสำคัญในช่วงของการพัฒนาประเทศรวมถึงทั่วโลกที่ผ่านมานั้นได้กระทำการต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาโดยขาดการระมัดระวังผลกระทบที่มีต่อธรรมชาติและสภาพแวดล้อม ในขณะเดียวกันธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาจนมีสภาพเสื่อมโทรมนั้นก่อให้เกิดผลต่อมนุษย์ ในด้านต่างๆ เช่น ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ การพัฒนาแนวนิเวศนี้ได้ว่า เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของกระบวนการพัฒนาแบบยั่งยืน การพัฒนาจะดำเนินควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งหมายความว่าการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจะต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบที่เสียหาย ต่อระบบนิเวศทั้งหมดในระยะยาว ความยั่งยืนทางนิเวศไม่อาจจะเกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยวได้เลย หากแต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ ในที่นี้ ความยั่งยืนทางสังคมและวัฒนธรรมดูเหมือนจะมีความสำคัญสูงสุด แนวคิดนี้บ่งว่าหลักการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดรวมทั้งการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เกษตรอินทรีย์ ( organic farming) คือระบบการเกษตรที่ผลิตอาหารและเส้นใย ด้วยความยั่งยืนในทางสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจ โดยเน้นหลักการปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อใช้หลักการในทางธรรมชาติ ของพืช สัตว์ และนิเวศทางการเกษตร เกษตรอินทรีย์จึงลด การใช้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย เช่น สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ ในขณะเดียวกัน ใช้สิ่งที่ได้มาจากธรรมชาติ ในการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาของที่มีอยู่ในท้องถิ่นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด หลักกการเกษตรอินทรีย์เป็นแนวทงที่สอดคล้องกับเกษตรธรรมชาติที่ เป็นไปในวิธีการพัฒนาในรูปของการเกษตรแบบยั่งยืนที่สามารถผสมผสาน กลมกลืนระหว่างเพิ่มผลผลิตกับนิเวศแวดล้อมในแหล่งผลิตพืชดดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาทำลายธรรมชาติ เช่น เครื่องจักรกล ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช ต่าง ๆ |
6 อัตถ์ อัจฉริยมนตรี |
เกษตรอินทรีย์ในปัจจุบัน ในปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกได้ให้ความสนใจกับระบบเกษตรที่ปลอดภัยจากการใช้สารเคมีมากขึ้น และยังตระหนักถึงสุขอนามัยของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น ทางเลือกในการทำการเกษตรแบบหนึ่งก็คือ การทำระบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นระบบการผลิตที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมรักษาสมดุลย์ทางธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพโดยมีระบบการจัดการนิเวศวิทยาที่คล้ายคลึงกับธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้สารสังเคราะห์ ที่อาจก่อให้เกิดมลพิษในสภาพแวดล้อมรวมทั้งการนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ด้วย ในประเทศไทยเองซึ่งมีฐานะเป็นผู้ผลิต และส่งออกสินค้าอาหารที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกมีความเหมาะสม และมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งผลิตอาหารในระบบเกษตรอินทรีย์ แนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ทั้งใน และต่างประเทศเริ่มมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ต่อปี ทั้งนี้เนื่องจากผู้ผลิต และผู้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเริ่มคำนึงถึงสุขอนามัยความปลอดภัยและมลพิษในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีข้อกำหนดมาตรฐานการผลิตเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล และใช้ข้อบังคับอยู่แล้วในหลายประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์ (OrganicFood Production Act - OFPA) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 และแก้ไขเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2539 ตลาดร่วมยุโรป (European Union - Eu) ได้รวบรวมข้อกำหนดของผลิตผลเกษตรอินทรีย์ไว้ในข้อกำหนดของสภายุโรป (EEC No. 2092 / 91) และฉบับแก้ไของค์การการค้าโลกยังไม่มีข้อกำหนดการผลิตเกษตรอินทรีย์ แต่ใช้การปฏิบัติตามข้อแนะนำของ Codex Alimentarius สมาพันธ์ผู้ผลักดันสินค้าเกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federation of Organic Agriculture Movement -IFOAM) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่มีสมาชิกทั่วโลกมากกว่า 100 ประเทศ ในตลาดและผู้บริโภคในประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการผลิตภัณฑ์อินทรีย์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเหตุเพราะประเทศเหล่านั้นขาดการผลิตเป็นของตนเอง อย่างเช่น สหราชอาณาจักรต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์อินทรีย์มากกว่า 70 % ตลาดในสหรัฐอเมริกาก็มีมูลค่ากว่า 5 พันล้านเหรียญต่อปี และคาดว่าจะเป็นสองเท่าในอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า ในเยอรมันผลิตภัณฑ์อินทรีย์กำลังรุกคืบเข้าสู่ตลาด ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มีรายงานจากประเทศต่าง ๆ เช่น อียิปต์ อาร์เจนติน่า ญี่ปุ่นโปแลนด์ และออสเตรเลีย และปัจจุบันบริษัทมีชื่ออย่าง แมคโดแนลด์ (กับนมอินทรีย์ในสวีเดน) เนสเล่ แซนดอช และสายการบินอย่าง ลุฟท์ แฮนซ่า และสวิตแอร์ก็ได้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ ปัจจุบันกระแสของการบริโภคสินค้าเกษตรปลอดภัยจากสารพิษมีมากขึ้น โดยมีสินค้าที่บ่งบอกถึงการผลิตอย่างปลอดภัยจากสารพิษในท้องตลาดเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคหลายชนิดผู้บริโภคจึงมักพบสินค้าเกษตรที่ระบุว่า เกษตรอินทรีย์ ผักไร้สารพิษ ผักปลอดภัยจากสารพิษ ผักอนามัย ซึ่งคำต่าง ๆ เหล่านี้มีคำจำกัดความ มีขั้นตอนการผลิตแตกต่างกัน คือ เกษตรอินทรีย์ คือการเกษตรที่สร้างสรรค์ให้ระบบนิเวศน์การเกษตรได้ก่อให้เกิดการผลิตที่ยั่งยืน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค อนุรักษ์และปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยใช้หลักการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ และทำให้เกิดการผสมผสานเกื้อกูลซึ่งกันและกัน หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืชและฮอร์โมน เน้นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรในไร่นาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผลผลิตที่ได้เป็น Organic food อาหารที่ไร้สารพิษ คือ อาหารที่ได้จากระบบการผลิตที่ไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นสารเคมีเพื่อป้องกันและปราบศัตรูพืชหรือปุ๋ยเคมีทุกชนิด แต่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งหมดและผลผลิตที่เก็บเกี่ยวแล้วต้องไม่มีพิษใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ผักปลอดภัยจากสารพิษ คือ ผักที่ระบบการผลิตมีการใช้สารเคมีในการป้องกันและปราบศัตรูพืชรวมทั้งปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญเติบโต ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ยังมีสารพิษตกค้างไม่เกินปริมาณที่กำหนดไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 163 พ.ศ. 2538 ผักอนามัย คือ ผักที่ระบบการผลิตมีการใช้สารเคมีในการป้องกันและปราบศัตรูพืชรวมทั้งปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญเติบโต ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ยังมีสารพิษตกค้างไม่เกินปริมาณที่กำหนดไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและมีความสะอาดผ่านกรรมวิธีการปฏิบัติก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวตลอดจนการขนส่งและการบรรจุหีบห่อได้ตามคุณลักษณะตามมาตรฐาน เกษตรอินทรีย์ไม่ใช่เกษตรธรรมชาติ (Natural Agriculture) ตามแบบของประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะของนายยาซาโนมุ ฟูกุโอกะ นักธรรมชาติวิทยาที่คำนึงถึงระบบนิเวศน์มาก ได้ทำฟาร์มเกษตรธรรมชาติ โดยมีหลักการใช้คำว่า "ไม่ 4 ตัว" คือ "ไม่ไถพรวน" "ไม่ใส่ปุ๋ย" "ไม่ป้องกันกำจัดศัตรูพืช" "ไม่กำจัดวัชพืช" โดยหยุดการแทรกแซงธรรมชาติโดยสิ้นเชิง กระทำตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์ เองก็มี " 4 ไม่" เช่นกัน คือ "ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี" "ไม่ใช้สารป้องกันและกำจัดศัตรูพืช" "ไม่ใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช" และไม่ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นความเจริญเติบโตของพืช วิธีการของเกษตรอินทรีย์
เกษตรอินทรีย์ในแนวทางยั่งยืน สรุปและมุมมอง
กรมวิชาการเกษตร. 2545. ใน โครงการกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสานในประเทศไทย.
ข่าวสารกำจัด |
7 ชนิดา แทนธานี |
เกษตรยั่งยืน หมายถึง
แนวทางการเกษตรใหม่ที่ใช้ความรู้ทางนิเวศวิทยาเพื่อการเกษตร โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สามารถเป็นไปได้ในทางเศรษฐกิจ เกื้อหนุนให้เกิดความยุติธรรมทางสังคม รวมทั้งเพิ่มพูนคุณธรรมและคุณค่าของมนุษย์ หลักการสำคัญพื้นฐานของเกษตรยั่งยืน 1. ระบบเกษตรยั่งยืนดำเนินงานโดยใช้ทรัพยากรภายในไร่นาอย่างมีประสิทธิภาพ มีรูปแบบการผลิตและการจัดการหมุนเวียน ทรัพยากรได้อย่างสมดุล โดยหลีกเลี่ยงการใช้ทรัพยากรจากภายนอก 2. ให้ความสำคัญอย่างสูงต่อดิน เพื่อประโยชน์ที่ยั่งยืนของการทำเกษตร การฟื้นฟูและอนุรักษ์ดินนั้นหมายถึง การป้องกันมิให้มีการใช้ประโยชน์จากดินจนเกินความสามารถตามธรรมชาติของผืนดิน ตลอดจนการปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน 3. ปกป้องมลภาวะที่เกิดเนื่องจากวิธีการทำการเกษตร เกษตรยั่งยืนงดการใช้ปุ๋ยเคมี ยาควบคุมวัชพืชและแมลง ฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต ตลอดจนวัคซีนและสารเคมีอื่นๆโดยสิ้นเชิง โดยหันมาใช้พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ที่ต้านทาน การใช้สมุนไพรควบคุมแมลง การควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี เป็นต้น 4. เกษตรยั่งยืนมุ่งผลิตอาหารที่มีคุณภาพทางโภชนาการ มีธาตุอาหารครบถ้วนตามธรรมชาติของผลผลิต 5. ลดการใช้น้ำมันปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์จากเชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์ทุกรูปแบบ ผลิตภัณฑ์จากเชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์ที่ใช้อยู่ในวงการเกษตรในปัจจุบันก็คือปุ๋ยและยาฆ่าแมลงนั่นเอง การลดการใช้ปุ๋ยและยานั้นเป็นวิธีปฏิบัติพื้นฐานของฟาร์มเกษตรยั่งยืนเหมือนกันทั่วโลก แต่การใช้น้ำมันที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตรนั้นยังมีระดับที่แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่โดยทั่วๆไปแล้วฟาร์มเกษตรยั่งยืนจะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยหันมาใช้แหล่งพลังงานที่สามารถใช้หมุนเวียนแทน 6. มีวิธีการปฏิบัติต่อสัตว์และสิ่งมีชีวิตภายในฟาร์มโดยยึดหลักมนุษยธรรม การเลี้ยงสัตว์ตามแนวทางเกษตรยั่งยืน ต้องจัดพื้นที่การเลี้ยงสัตว์อย่างเหมาะสม สัตว์สามารถออกกำลังกาย และได้รับอาหารที่ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง 7. เกษตรยั่งยืนมิใช่การเกษตรที่มีเป้าหมายการผลิตเพื่อการตลาดแต่เพียงประการเดียว หากแต่ต้องตอบสนองต่อความต้องการด้านอาหาร สุขภาพและวิถีชีวิตที่ดี รวมทั้งเอื้อให้เกษตรกรตระหนักต่อความสำคัญและประโยชน์ของการใช้แรงงานไปพร้อมๆกันด้วย 8. เอื้อให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาระบบนิเวศของชนบทและชุมชน และเมื่อคำจำกัดความของ เกษตรอินทรีย์ หมายถึง ระบบการทำการเกษตรทุกอย่างที่ส่งเสริม สนับสนุนการผลิตอาหารและเส้นใยที่ประหยัด ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ระบบเหล่านี้ใช้ความอุดมสมบูรณ์ของดินเป็นเสมือนกุญแจไขไปสู่ความสำเร็จในการผลิตด้วยการคารวะ ต่อความสามารถตามธรรมชาติของพืช สัตว์ และลักษณะภูมิประเทศ มันพุ่งเป้าไปถึงคุณภาพอันสูงสุดในทุกด้านของการเกษตรและสิ่งแวดล้อม เกษตรอินทรีย์จะลดปัจจัยภายนอกที่ใส่เข้าไปได้ด้วยการเลิกหรือหยุดใช้ปุ๋ยเคมี - สังเคราะห์ ยากำจัดศัตรูพืช เภสัชภัณฑ์ และ พันธุวิศกรรมใด ๆ โดยที่ควรปล่อยให้กฎแห่งธรรมชาติที่ทรงพลังอำนาจมาเพิ่มผลผลิตการเกษตรและเพิ่มความต้านทานโรค ซึ่งเป็นระบบการผลิตทางการเกษตรที่คำนึงถึงการใช้ปัจจัยการผลิตจากสารอินทรีย์ เพื่อรักษาความสมดุลของธรรมชาติและเลี่ยงการปฏิบัติที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนของมลสารในผลผลิตและสภาพแวดล้อม เพื่อการทำการเกษตรที่สร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนตลอดไป ดังนั้น เกษตรอินทรีย์จึงเป็นส่วนหนึ่งของเกษตรยั่งยืน |
8 สยาม กันธา |
เกษตรยั่งยืน หมายความว่า
แนวทางการใช้วิชาทางการเกษตรเพื่อสามารถที่จะจัดการตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาเทคโนโลยีตลอดจนการปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลหรือสถาบันในลักษณะที่เกิดการคงไว้
และสามารถนำไปใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ ตามความต้องการของมนุษย์ทั้งในปัจุปันและในอนาคต
การพัฒนาการเกษตรให้ยังยืนนั้นล้วนต้องการการอนุรักษ์ดินและที่ดิน ทรัพยากรด้านพันธุกรรมของพืชและสัตว์
เทคโนโลยีที่เหมาะสมไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ก่อให้เกิดผลด้านเศรษฐกิจ และการยอมรับในสังคมนั้นๆ
(โดยอภิพรรณ พุกภักดี 2542. เกษตรยั่งยืน. ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) การเกษตรยั่งยืน หมายถึง การเกษตรที่ดีและเหมาะสม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบการผลิต ความสามารถของผู้ผลิตในการผลิตสินค้าเกษตร ภายใต้การจัดการทรัพยากรอย่างเหมาะสม ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อการกินดี อยู่ดี มีเสถียรภาพและสามารถพึ่งตนเองได้ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงประเพณี วัฒนธรรม และคุณธรรมของสมาชิกในชุมชน เกษตรอินทรีย์มีหลายความหมาย 2. การวางแผนการจัดการ ควรมีการวางแผนป้องกันสารพิษจากภายนอกทั้งทางน้ำและทางอากาศ และการป้องกันทางน้ำทำได้โดยขุดคูรอบแปลง การป้องกันทางอากาศให้ปลูกพืชกันชนทั้งไม้ทรงสูง ทรงสูงปานกลาง และต้นเตี้ยบนคันกั้นน้ำรอบแปลง ส่วนการวางแผนป้องกันให้จัดระบบการระบายน้ำการเก็บเกี่ยวรักษาเครื่องมือ อุปกรณ์และการเข้าออกในไร่นา ด้านการวางแผนระบบการปลูกพืช ควรเลือกฤดูปลูกที่เหมาะสม พันธุ์พืชที่ต้านทานโรคแมลงพืชบำรุงดิน พืชไล่แมลง เป็นต้น 3. การเลือกพันธุ์ปลูก ให้คำนึงถึงสภาพดินสภาพภูมิอากาศ ความต้านทานต่อโรคแมลงและวัชพืช ตลอดจนความหลากหลายของชนิดพืชในแปลงไม่ใช่พืชจีเอ็มโอ (พืชที่ได้จากการตัดต่อสารพันธุกรรม) หากเป็นเมล็ดพันธุ์พืชทีมาจากการปลูกแบบอินทรีย์จะดีมาก 4. การปรับปรุงบำรุงดิน ให้เลือกพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินสูง ถ้าดินเป็นกรดจัดให้ใส่ปูนบดลดความเป็นกรด ปลูกพืชตระกูลถั่วและไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เช่น โสน ถั่วพุ่ม ถั่วมะแฮะหรือถั่วชนิดอื่นๆ (โสนควรปลูกในนา ถั่วต่างๆควรปลูกในไร่) การใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักเศาซากพืชเพื่อช่วยปรับโครงสร้างดินและให้ธาตุอาหารแก่พืชหากดินขาดโปแตสเซียมและขี้เถ้า แต่ถ้าดินขาดฟอสฟอรัสให้ใช้ปุ๋ยหินฟอสเฟต 5.การจัดการศัตรูพืช ก่อนปลูกกรณีที่ใช้เม็ดพันธุ์ปลูกควรใช้พันธุ์ต้านทานโรคแมลงและวัชพืช จากนั้นให้แช่เมล็ดในน้ำอุ่นนาน 10-30 นาที เพื่อกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิดที่ติดมากับเมล็ด คลุกเมล็ดด้วยจุลินทรีย์ เช่น เชื้อไตรโคเดอร์ม่า เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส สัปทิลิส ขั้นตอนการเตรียมแปลงปลูกให้ไถตากดิน 1-2 สัปดาห์ เมื่อเมล็ดวัชพืชงอกแล้วไถกลบ ใช้พลาสติกใสที่ไม่ย่อยสลายคลุมแปลงกำจัดวัชพืชในดินที่ต้องการแสงแดด ใช้ปูนโดโลไมท์หรือปูนขาวปรับความเป็นกรด-ด่าง ของดินเพื่อให้เชื้อโรคไม่เติบโต ขังน้ำท่วมแปลงเพื่อควบคุมโรคแมลงที่อยู่ในดิน ตากดินให้แห้งเพื่อกำจัดแมลงในดิน ใส่เชื้อราไตรโคเดอร์ม่าลงในดินเพื่อป้องกันระบาดของเชื้อราบางชนิด การควบคุมแมลงให้สำรวจแมลงศัตรูพืชในแปลงปลูก ถ้าพบว่ามีแมลงจำนวนน้อยให้ใช้วิธีการควบคุมทางชีวภาพจากพืช หรือสารสกัดจากพืชสมุนไพร เช่น ดาวเรือง ว่านน้ำ พริกสาบเสือ หางไหลแดง สะเดา เป็นต้น หรือใช้จุลินทรีย์ที่เป็นปฏิปักษ์ เช่น เชื้อไวรัสเอ็นพีวี เชื้อแบคทีเรียบีที ไส้เดือนฝอย ศัตรูพืชธรรมชาติใช้ตัวหัวห้ำ ตัวเบียนน้ำสบู่หรือสารทำหมันแมลง แต่ถ้าแมลงระบาดให้ใช้กับดักกาวเหนียว กับดักแสงไฟ เพื่อลดปริมาณแมลง การควบคุมวัชพืช ควรควบคุมก่อนวัชพืชออกดอก
โดยวิธีการทางกายภาพ เช่น อบ ตาก บด ถอน ตัด ปลูกพืชตระกูลถั่วคลุมดิน ใช้พลาสติกทึบแสงที่ไม่ย่อยสลายคลุม
ใช้สารสกัดจากพืชและใช้ชีววิธี เช่น แมลงสัตว์หรือจุลินทรีย์ |
9 พิกุล ซุนพุ่ม |
การเกษตรยั่งยืนเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี
ปัจจัยการผลิตและการจัดการ เพื่อให้ผลผลิตคงอยู่ยั่งยืน สัมพันธ์กับเศรษฐกิจ
สังคมและสิ่งแวดล้อม ระบบเกษตรกรรมยั่งยืนประกอบด้วยคุณลักษณะสำคัญอย่างน้อย 4 ประการด้วยกัน คือ ก. ผู้ผลิต (productivity) ข. ความมั่นคง (stability) ค. ความยั่งยืน (sustainability) ง. ความเท่าเทียม (equitability) ซึ่งในระบบเกษตรกรรมแนวทางปฏิวัติเขียงนั้นเน้นเฉพาะเพียงการเพิ่มผลผลิต (productivity) อาจกล่าวได้ว่า ระบบเกษตรกรรมยั่งยืนไม่ได้มีรูปแบบในทางปฏิบัติเคร่งคัดตายตัว เป็นแบบแผนชัดเจน แต่สามารปรับให้เข้ากับสภาพทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการเมือง ฯลฯ ของแต่ละพื้นที่ แต่ละโอกาสได้ โดยมีกรอบที่กำหนดให้คือ คุณลักษณะทั้ง 4 ประการนั้นเป็นสำคัญ หากระบบการผลิตแบบใดทำให้ได้ทั้งผลผลิต ความมั่นคง ความยั่งยืนและความเท่าเทียมกันแล้ว ระบบการผลิตนั้นเรียกว่า ระบบเกษตรกรรมยั่งยืน ได้ทั้งสิ้น การทำการเกษตรอินทรีย์ (Organic Farm) เซอร์ อัลเบิร์ต โฮเวิร์ด นักการเกษตรชาวอังกฤษ ผู้ได้ชื่อว่าเป็น "บิดาแห่งเกษตรกรรมอินทรีย์" ได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของเกษตรกรรมไว้ว่า ต้องเป็นไปเพื่อสุขภาพอันสมบูรณ์เท่าเทียมกันของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ได้แก่ สิ่งมีชีวิตในดินดิน พืช สัตว์และมนุษย์ ซึ่งสิ่งมีชีวิตทั้ง 4 จำพวกนี้มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันเป็นลูกโซ่ โดยมีสิ่งมีชีวิตในดินเป็นโซ่ข้อแรก พืชเป็นข้อที่สอง สัตว์เป็นข้อที่สามและมนุษย์เป็นโซ่ข้อสุดท้าย หากโซ่ข้อต้นๆ อ่อนแอหรือถูกทำลายลงก็จะมีผลทำให้โซ่ข้อหลังๆ ซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยโซ่ข้องต้นๆ มาเป็นลำดับนั้นพลายถูกกระทบกระเทือนไปด้วย เช่น เมื่อดินถูกทำลายจนหมดความอุดมสมบูรณ์ ก็จะมีผลต่อเนื่องทำให้พืช สัตว์และมนุษย์เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งในที่สุดก็จะทำให้มนุษย์มีสุขภาพเสื่อมทรามลง เกษตรกรรมอินทรีย์ เป็นวิธีการผลิตแบบปลอดสารเคมี บนฐานของความยั่งยืน ให้ความสำคัญกับดิน ความอุดมสมบูรณ์ของดินเป็นอันดับแรก เพราะถือว่าเป็นพื้นฐานความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ รวมทั้งมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนพื้นดินนั้น เกษตรกรรมอินทรีย์บำรุงรักษาดินโดยการเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดิน ผลผลิติที่ได้จากฟาร์มถือว่ามีคุณค่าสูง เพราะมาจากดินที่อุดมสมบูรณ์ ไม่มีการใช้สารเคมีจึงไม่มีสารเคมีตกค้างสู่ผู้บริโภคโดยตรง การทำการเกษตรอินทรีย์จัดเป็นส่วนหนึ่งของการทำการเกษตรแบบยั่งยืน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการจัดการของเกษตรกร ผู้ผลิต วิธีนี้น่าจะใช้ได้ดีกับเกษตรการขนาดเล็กมากว่าเกษตรกรรายใหญ่ เพราะเกษตรกรรายใหญ่ยังคงต้องการกำไรมากกว่าจังยังนิยมใช้การเกษตรแบบสารเคมี |
10 ณัฏฐิณี ภัทรกุล รหัส 4528107 |
เกษตรยั่งยืน
เกษตรยั่งยืน หมายถึง
แนวทางการใช้วิชาการเกษตรเพื่อสามารถที่จะจัดการตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาเทคโนโลยี
ตลอดจนการปรับปรุงนโยบายของรัฐหรือสถาบันเพื่อให้เกิดการคงไว้ และสามารถนำไปใช้ต่อไปได้เรื่อย
ๆ ตามความต้องการของมนุษย์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต การทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนต้องมีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ก่อให้เกิดผลด้านเศรษฐกิจ และการยอมรับในสังคม รูปแบบการทำเกษตรยั่งยืนมีหลายระบบแตกต่างกันออกไป
เช่น เกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ เกษตรชีวพลวัตร เกษตรกรรมนิเวศวิทยา
เกษตรกรรมชีวภาพ และวนเกษตร |
11
กมล กองคำ รหัส 4528101
|
เกษตรยั่งยืน
เกษตรอินทรีย์ (Organic
Agriculture) วิธีการของเกษตรอินทรีย์
หลักการผลิตพืชเกษตรอินทรีย์
และการปรับปรุงดิน |
12 Viet Coung |
See Link |