้
โครงการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวนาปีโดยใช้ปุ๋ยพืชสดบำรุงดินและศึกษาการยอมรับของเกษตรกรได้ดำเนินการกับเกษตรกรจำนวน
53 ราย ในพื้นที่รับน้ำโครงการชลประทานแม่แตง แม่แฝก และ แม่กวง รวม 3 อำเภอ
คือ อำเภอแม่แตง สันทราย และอำเภอสันกำแพงตามลำดับ โดยร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 เชียงใหม่ และ สถาบันวิจัยข้าว
ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วย ( รูปภาพที่ 3.1 )
1. ขั้นเตรียมการ
1.1 จัดเตรียมทีมงานวิจัยและทำความเข้าใจร่วมกันในคณะทำงาน
- ชี้แจงวัตถุประสงค์ แผนงานและความคาดหวัง
- อบรมผู้ช่วยนักวิจัยในประเด็นต่างๆเช่น
- การทำงานร่วมกับเกษตรกร
- ระบบการผลิตโสนอัฟริกัน-ข้าวคุณภาพ
- การวิเคราะห์ระบบฟาร์ม
1.2. การเลือกพื้นที่และคัดเลือกเกษตรกรร่วมโครงการ
- ชี้แจงโครงการกับสำนักงานเกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอ
- คัดเลือกเกษตรกร 50 รายจาก 3 อำเภอ
- ประชุมเกษตรกรเพื่อชี้แจง และอบรมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในแต่ละอำเภอในรายละเอียดเกี่ยวกับ
การจัดการ และการติดตามผล
- สุ่มเก็บตัวอย่างดินในพื้นที่เกษตรกรเพื่อวิเคราะห์ธาตุอาหารก่อนหว่านโสน
2. ขั้นดำเนินการวิจัย
2.1 การวิเคราะห์สถานะภาพทางเศรษฐกิจของเกษตรกรที่ร่วมโครงการ
50 ครัวเรือน
โดยทำการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นด้านเศรษฐกิจ สังคม ระบบการผลิต ต้นทุนการผลิต
ผลผลิต รายได้ ตลอดจนทัศนคติของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแต่ละรายเกี่ยวกับการปลูกพืชบำรุงดิน
เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบเมื่อสิ้นสุดโครงการ
2.2. การปลูกโสนอัฟริกันและการปลูกข้าวคุณภาพในแปลงเกษตรกร
- สนับสนุนเมล็ดพันธุ์โสนให้แก่เกษตรกร
3 กก. ต่อเกษตรกร 1 ราย พร้อมทั้งวิธีการ
กระตุ้นความงอกของเมล็ด และอัตราที่ใช้
- เกษตรกรเยี่ยมชมแปลงโสนของศูนย์วิจัยเพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตร
เพื่อ
สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับชีวภาพและการจัดการโสนเป็นปุ๋ยพืชสด
- เกษตรกรดำเนินการปลูกโสนอัฟริกันรายละ
1 ไร่ โดยเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่การเตรียมพื้นที่ การปลูก จนกระทั่งไถกลบซึ่งโครงการจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย
บางส่วนในการเตรียมดิน เพื่อจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการพร้อมให้คำแนะนำ
และติดตามผลการปฏิบัติของเกษตรกรทุกรายอย่างใกล้ชิด
- ชี้แจงเกษตรกรถึงระยะที่เหมาะสมในการไถกลบโสนเป็นปุ๋ยพืชสด
- สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ
เช่นข้าวขาวดอกมะลิ 105 ข้าวคลองหลวง 1 ให้แก่เกษตรกรรายละ 5 กก.ต่อพื้นที่ปลูก
1 ไร่
3. ขั้นติดตามและประเมินผล
3.1 การติดตามผลในพื้นที่เกษตรกร
- ติดตามให้คำแนะนำในการปฏิบัติที่ถูกต้องและเหมาะสมแก่เกษตรกร
- สุ่มเก็บตัวอย่างชีวมวลของโสนก่อนทำการไถกลบในพื้นที่เกษตรกร
- ติดตามการเขตกรรมการปลูกข้าวของเกษตรกรทั้งในแปลงโครงการและนอกโครงการ
บันทึกการเจริญเติบโตของข้าว บันทึกการใช้ปัจจัยการผลิต แรงงาน และ ปัจจัยที่มีผลต่อการลดลงของผลผลิตข้าว
เช่น หอยเชอรี่ ปู แมลงศัตรูข้าว โรค วัชพืช นก และหนู ฯลฯ
- บันทึกข้อมูลผลผลิตข้าวในแปลงที่ปลูกและไม่ปลูกโสนอัฟริกันของเกษตรกร
3.2 การสำรวจข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เกษตรกรเพิ่มเติมหลังการเก็บเกี่ยวข้าว
เกี่ยวกับระบบการผลิตโสนอัฟริกัน-ข้าวคุณภาพ
กับระบบการผลิตข้าวเดิมของเกษตรกร
ตลอดจนทัศนคติของเกษตรกรเมื่อสิ้นสุดโครงการ และสมมุติฐานเพื่อทดสอบการ
ยอมรับมาตรการการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ดินในนาข้าว ดังนี้
- เกษตรกรที่มีที่ดินของตนเองจะยอมรับระบบโสน-ข้าวได้เร็วกว่าเกษตรกรที่
ต้องเช่าที่ดินทำกิน
- พื้นที่ถือครองมากจะยอมรับระบบโสน-ข้าวได้เร็วกว่า
เกษตรกร
ทีมีพื้นที่ปลูกข้าวจำกัด
- ความต้องการที่จะลดการพึ่งพึงปุ๋ยเคมีจะมีผลต่อการยอมรับระบบโสน-ข้าว
ของเกษตรกร
- เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปีเชิงพาณิชย์จะยอมรับระบบโสน-ข้าวได้เร็วกว่าเกษตรกร
ที่ปลูกข้าวนาปีเพื่อบริโภค
- การที่เกษตรกรต้องขยายเมล็ดพันธุ์ด้วยตนเองจะมีผลต่อการยอมรับระบบโสน
- วิธีการปฏิบัติการใช้โสนเป็นปุ๋ยพืชสดจะมีผลต่อกายอมรับระบบโสน-ข้าว
- ลักษณะทางกายภาพของดินจะมีผลต่อการยอมรับระบบโสน-ข้าว
- เกษตรกรที่มีแปลงปลูกข้าวอิสระจากแปลงเพื่อนบ้านจะมีโอกาสยอมรับระบบโสน-ข้าว
ได้เร็วกว่าเกษตรกรที่มีแปลงปลูกข้าว ซึ่งต้องอิงการจัดการของแปลงใกล้เคียง
- ราคาโสน จะมีผลต่อการยอมรับระบบโสน-ข้าวของเกษตรกร
ซึ่งการรวบรวมข้อมูลการยอมรับของเกษตรกรโครงการวิจัยฯ ได้นำระบบการผลิต
โสนอัฟริกัน-ข้าวพันธุ์ดี แนะนำสู่เกษตรกร โดยได้สนับสนุนเมล็ดพันธุ์โสน
ข้าวพันธุ์ดี และเงินทุนบางส่วนเพื่อเตรียมพื้นที่ แก่เกษตรกรในอำเภอแม่แตง
สันทราย และสันกำแพง ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ ทดลองนำไปปลูกในพื้นที่
โดยทีมวิจัยได้เข้าไปติดตามและเก็บข้อมูลมาตลอด และหลังจากที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว
ทีมวิจัยได้ดำเนินการสัมภาษณ์เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการอีกครั้ง โดยใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์เกษตรกรถึงข้อมูลครัวเรือน
ข้อมูลการผลิต การใช้ปัจจัยการผลิต ตลอดจนความคิดเห็น และแผนการในอนาคตเกี่ยวกับการปลูกพืชบำรุงดิน
รวมทั้งได้สัมภาษณ์เกษตรกรที่ไม่ได้ร่วมโครงการในปีนี้ ในทั้ง 3 พื้นที่จำนวนหนึ่งด้วย
เพื่อประเมินถึงปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการปลูกพืชบำรุงดิน ตลอดจนทัศนคติของเกษตรกรต่อการปลูกโสนอัฟริกันและพืชบำรุงดินอื่นๆ
3.2.1 จำนวนเกษตรกรตัวอย่าง
เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการวิจัยมีทั้งสิ้น 50 ราย แต่ในการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายได้รวมเกษตรกรอีก
3 รายในอำเภอสันกำแพง ที่ได้ปลูกโสนอัฟริกันอยู่แล้วด้วย รวมเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ยอมรับระบบการปลูกพืชโสนอัฟริกันบำรุงดินก่อนการปลูกข้าวในปีการผลิต
2542 จำนวนทั้งสิ้น 53 ราย ประกอบด้วยเกษตรกรในพื้นที่อำเภอแม่แตง 20 ราย
อำเภอสันทราย 18 ราย และอำเภอสันกำแพง 15 ราย สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่ไม่ได้ปลูกโสนอัฟริกันบำรุงดินหรือกลุ่มที่ไม่ยอมรับ
ได้จากการสัมภาษณ์เกษตรกรในพื้นที่รอบข้างในทั้ง 3 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 60
ราย ประกอบด้วยเกษตรกร จากอำเภอแม่แตง 22 ราย อำเภอสันทราย 23 ราย และอำเภอสันกำแพง
15 ราย (ตารางที่ 3.1)
3.2.2 การวิเคราะห์ข้อมูล
- ใช้วิธีพรรณนา โดยนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาวิเคราะห์
ประเมินศักยภาพและข้อจำกัดของเกษตรกร รวมทั้งทัศนคติของเกษตรกรเกี่ยวกับ
การยอมรับและผลกระทบของเทคโนโลยีการเกษตรเชิงอนุรักษ์ที่มีต่อผลผลิต และการใช้ปัจจัยการผลิตที่สำคัญ
เช่น แรงงาน
- การวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์ ใช้วิธีวิเคราะห์งบประมาณบางส่วน
(Partial budget) เปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนที่เกิดจาก การใช้โสนอัฟริกันในการฟื้นฟูดิน
กับการผลิตโดยวิธีเดิมของเกษตรกร และประเมินปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีผลต่อการยอมรับระบบโสนอัฟริกัน-ข้าวพันธุ์ดีด้วยแบบจำลอง
Logit
|