การจัดการของเกษตรกรกรณีข้าวขาดแคลน
ครอบครัวปาเกาะญอ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าว ซึ่งมีระยะตั้งแต่ 4-8
เดือน โดยการจัดตั้งธนาคารข้าว ปลูกพืชพาณิชย์เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งซื้อข้าวบริโภค
รับจ้างทั่วไปในพื้นที่ และอาศัยการยืมจากเครือญาติหรือเพื่อนบ้านที่มีข้าวเพียงพอ
ความรุนแรงของภาวะการขาดแคลนข้าวจะเกิดขึ้นเมื่อการปลูกข้าวล่าช้าจนถึงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม
เนื่องจากฝนล่าหรือฝนแล้งต้นฤดู และมีการระบาด ของเพลี้ยกระโดดหลังขาว
อย่างเช่นในปีฤดูปลูก 2541 ผลผลิตของตำบลบ้านจันทร์ อ.แม่แจ่ม ลดลงร้อยละ
65-80 จากปี 2540 ทำให้ทุกครัวเรือนขาดแคลนข้าวเพื่อบริโภค
ในปี 2543 ผลผลิตข้าวส่วนใหญ่เพียงพอต่อการบริโภคภายในครัวเรือนของเกษตรกรจากการสำรวจเกษตรกร
20 ราย พบว่าเกษตรกร 17 รายเพียงพอเมื่อเปรียบเทียบ กับผลผลิตข้าวปี
ปี และเกษตรกร 3 รายจาก 20 รายผลผลิตข้าวน้อยกว่าปี 2542 (ตารางที่
7) สำหรับปี 2544 ผลผลิตเฉลี่ย สูงกว่าข้าวทุกปี เฉลี่ย 468 กก./ไร่จากการสุ่มเก็บ
ตัวอย่างข้าวจำนวน 45 ตัวอย่างพื้นที่เก็บ 1 ตารางเมตร แต่ยังพบเกษตรกรขาดแคลนข้าวอยู่
|
ตารางที่ 7
ผลผลิตข้าวของชุมชนปาเกาะญอตามลำน้ำต่างๆ |
|
ผลผลิต |
จำนวนเกษตรกร |
|
น้อยกว่าปี
42 |
3 |
|
เพียงพอ |
17 |
|
|
สำหรับชุมชนที่วัฒนธรรมการดำรงชีพผูกพันกับการปลูกพืชพาณิชย์
เช่น ชุมชนม้ง ซึ่งสร้างรายได้จากพืชพาณิชย์ เพื่อซื้อข้าวบริโภค จะมีปัญหาการขาดแคลน
ข้าวน้อยกว่าชุมชนปาเกาะญอ เพราะกลุ่มนี้มีทักษะและประสบการณ์ในการใช้ที่ดินเพื่อปลูกพืชพาณิชย์
ทั้งที่เป็นพืชผัก และไม้ผลเมืองหนาว อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์ที่ดิน
และรูปแบบการผลิตแตกต่างไปจากชุมชนปาเกาะญอ กล่าวคือจะเน้นการใช้ที่ดินอย่างต่อเนื่องจนกว่า
ผลิตภาพ ของดินจะเสื่อมจนไม่คุ้มกับการฟื้นฟู หรือปัญหาด้านศัตรูพืชรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้
ก็จะย้ายพื้นที่เพาะปลูกใหม่ แต่ในกรณีที่ชุมชนพัฒนาการใช้ ้ประโยชน์อย่างถาวรโดยการปลูกไม้ผลยืนต้น
พืชผักพาณิชย์ก็จะปลูกเป็นพืชแซมร่วมกับไม้ผล ทำให้ การขยายพื้นที่
ทำกินลดลงซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของ การใช้ที่ดินแบบแผ้วถางและเผา (alternatives
to slash and burn) และพัฒนาเป็นระบบการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืนได้
|
|
ตารางที่
7 ผลผลิตข้าว (กก.) ที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ปุ๋ยเคมีในกลุ่มเกษตรกรบ้านเด่น
|
|
ชื่อเกษตรกร |
จำนวน
(ตัว) |
พันธุ์ข้าว |
พื้นที่นา(ไร่) |
ปุ๋ย
(กส). |
ผลผลิต
(กก.) |
ข้าวขาด
(เดือน) |
สมาชิกในครัวเรือน |
|
|
|
วัว |
ควาย |
|
|
ผลผลิต |
ี่เพิ่มขึ้น |
|
|
|
1.
จ่อดี |
- |
3 |
ปอเมาะ, |
4 |
2 |
450 |
30 |
- |
7 |
|
|
2.
มูเหล่อ |
- |
4 |
วาโป |
3.5 |
2 |
300 |
30 |
- |
7 |
|
|
3.
ส่าเลอพอ |
- |
4 |
โปเละ |
4 |
2 |
450 |
30 |
- |
7 |
|
|
4.
เพเง |
7 |
5 |
ปอเมาะ |
4 |
2 |
300 |
45 |
- |
8 |
|
|
5.
โมคา |
4 |
6 |
โปโละ |
2 |
1 |
150 |
30 |
3 |
6 |
|
|
6.
ประสิทธิ์ |
2 |
4 |
ปอเมาะ |
4 |
2 |
270 |
30 |
- |
8 |
|
|
7.
เก่อเฮ |
- |
- |
โปเละ |
3.5 |
1.5 |
165 |
30 |
3 |
11 |
|
|
8.
วิรุญ |
- |
- |
โปเละ |
3.5 |
1.5 |
165 |
30 |
- |
5 |
|
|
9.
ส่าทอง |
- |
- |
วาโป |
2.5 |
1 |
247 |
โรค |
- |
7 |
|
|
เฉลี่ย |
4 |
4 |
|
3.5 |
1.5 |
277 |
31.8 |
3 |
7 |
|
|
ตัวอย่างการจัดการกรณีขาดแคลนข้าว |
|
|
เกษตรกรที่ขาดแคลนข้าว
3 เดือน ปริมาณข้าวที่บริโภค 100 กก.ข้าวสาร/เดือน
1 คน/ครึ่งกก./วัน. การจัดการกรณีขาดข้าว นายมูคา
1. ปลูกผักโครงการหลวง
2. เก็บของป่า
3. รับจ้าง
4. ยืมจากธนาคารข้าว
5. ยืมร้านค้า
|
|
จากการศึกษา พฤกษ์ และคณะ (2537)
พบว่าแนวทางในการลดปัญหาการขาดแคลนข้าวเกษตรกร 95 ครัวเรือนที่ทำการสัมภาษณ์จาก
4 หมู่บ้านได้แก่ บ้านจันทร์ บ้านเด่น บ้านหนองเจ็ดหน่วย และห้วยบง
พบว่าจำนวนปาเกาะญอที่ทำงานนอกอาชีพการเกษตรเพื่อนำรายได้มาชดเชยการขาดแคลนข้าวสูงถึง
89 ปอร์เซ็นต์ 65 เปอร์เซ็นต์ยืมข้าว จากธนาคารข้าวในหมู่บ้าน 51 เปอร์เซ็นต์ขายสัตว์เลี้ยง
เช่น วัว หมู ไก่ และอืนๆ 47 เปอร์เซ็นต์ และ 43 เปอร์เซ็นต์ปลูกพืชเศรษฐกิจ
จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2537 ปี 2544 พบว่าชุมชนปาเกาะญอที่มีอาหารไม่เพียงพอจะปฏิบัติคล้ายคลึงกัน
|
ตารางที่ 8
การจัดการของเกษตรกรบ้านเด่น และห้วยบงในกรณีขาดแคลนข้าว |
|
ปี
2537 ** |
ปี
2544* |
|
บ้านเด่น
หนองเจ็ดหน่วย ห้วยบง และบ้านจันทร์ |
บ้านเด่น |
บ้านห้วยบง |
|
1. รับจ้างภายในหมู่บ้าน |
1.ขายควายซื้อข้าว |
1. ขายวัว
ขายควาย |
|
2. ยืมข้าวเปลือกจากธนาคารข้าว |
2.รับจ้างภายในหมู่บ้าน |
2. รับจ้างในหมู้บ้าน
ต. บ้านจันทร์ |
|
3. ขายสัตว์เลี้ยง |
3.ปลูกพืชโครงการหลวง
(ผัก,ฟักทอง) |
3. ธนาคารข้าว
อพป. (อาสาพัฒนาป้องกันตนเอง) สำหรับ (โครงการเมล็ดพันธุ์) ยืมข้าวเปลือกได้ประมาณ
370 ถัง เวลาส่งคืน ส่งดอก 3 ลิตร ต่อถัง (ข้าวเปลือก) |
|
4. ยืมจากญาติ
และเพื่อนบ้าน |
4.ยืมข้าวจากธนาคารข้าวในหมู่บ้าน |
4. ยืมจากญาติ
ทั้งข้าวเปลือก และข้าวสาร |
|
5. รายได้เสริมจากหัตถกรรม;
ทอผ้า |
5.ยืมญาติ
(ข้าวสาร ข้าวเปลือกโดยไม่มีดอกเบี้ย) |
5. ยืมเงินซื้อข้าว
(5บาท/เดือน ดอกเบี้ย) |
|
6. แหล่งอาหารอื่นๆ |
6.สินเชื่อจากร้านค้า
ตามราคาขาย (บวกกำไรจากราคาของแล้ว) ในหมู่บ้าน |
6. ยืมจากร้านค้าในราคาเท่าเงินสด
เวลา < 1 เดือน |
|
7. เก็บและขายพืชอาหารจากป่า |
7.เก็บของป่าขาย
เช่นเดือนพฤษภาคม เก็บเห็ดถอบขาย |
7. แลกเปลี่ยนสินค้า
เช่น ข้าว แลก ของป่า |
|
8. อื่นๆ |
|
8. การยืมที่ดิน
(ป่าหมุนเวียน) ปลูกโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า |
|
9. รับจ้างนอกหมู่บ้าน |
|
|
|
ที่มา: *
Gypmantasiri, at.al (1994) และ ** ประชุมกลุ่มเกษตรกรบ้านเด่น
และบ้านห้วยบง 2544 |
ตัวอย่างการแก้ไขปัญหาขาดแคลนข้าว
เกษตรกรในพื้นที่ทุกคนทราบดีว่าปี 2540 ผลผลิตข้าวจะลดลงเนื่องจากการปลูกข้าวล่าช้าไปประมาณ
1 เดือน และจากงานทดลองปี 2539 ได้ชี้ให้เห็นว่า เมื่อปลูกข้าวในเดือนกรกฎาคม
ผลผลิตจะลดลงประมาณ 40 % และถ้าปลูกในเดือนสิงหาคมผลผลิตจะลดลงเหลือ
100 กก/ไร่ เกษตรกรได้สรุปแนวทางแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวไม่เพียงพอในปี
2540 ดังนี้
|
ตัวอย่างการแก้ไขปัญหาขาดแคลนข้าว |
|
|
1
พันธุ์ข้าว เกษตรกรยังคงยึดพันธุ์ข้าว บือโปโหละ และ บือปอเมาะ
เป็นพันธุ์หลักใน
การปลูกข้าวทุกปี แต่ในสภาพฝนแล้งและฝนทิ้งช่วงนาน เกษตกรมีความเห็นว่าพันธุ์
บือโปะโหละจะให้ผลผลิตสูงกว่าบือปอเมาะ เนื่องจากมีอายุการเก็บเกี่ยวช้ากว่า
2 ใช้ระยะปลูกชิด พันธุ์ข้าวทั้งสองพันธุ์มีขีดความสามารถในการแตกกอน้อย
เมื่อการ
ปลูกล่าช้ามีผลทำให้การแตกกอลดลงอีก เกษตรกรคิดว่าการปลูกชิดจะช่วยพยุงผล
ผลิตข้าวได้
3 การใส่ปุ๋ยเคมี เกษตรกรที่สามารถซื้อปุ๋ยเคมีได้มีความประสงค์ที่จะใส่ปุ๋ยเคมี
16-20-0 ในอัตรา 25 กก/ไร่ (ตัวอย่าง เกษตรกรมูเหล่ แตเดิมเคยใช้ปุ๋ยเคมี
2 กระสอบต่อไร่ ปีนี้จะเพิ่มปริมาณการใช้ปุ๋ยเป็น 3 กระสอบในพื้นที่เดียวกัน)
|
|
|